คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของบุคคล นิติบุคคล หรือเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งออกโดยผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certificate Authority – CA) ให้แก่เจ้าของกุญแจส่วนตัว (Private Key) ที่ร้องขอใบรับรอง โดยใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์จะประกอบด้วยข้อมูลระบุตัวตนของเจ้าของใบรับรอง กุญแจสาธารณะ (Public Key) และข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ ตามที่มาตรฐานกำหนด ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์นี้จะใช้เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานกุญแจสาธารณะ (Public Key Infrastructure – PKI) เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างกุญแจส่วนตัว (Private Key) ของเจ้าของใบรับรองกับกุญแจสาธารณะ (Public Key) ที่อยู่ในใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของเจ้าของใบรับรอง

  1. บุคคล (Personal Certificate)
  2. นิติบุคคล (Enterprise Certificate)
  3. เจ้าหน้าที่นิติบุคคล (Enterprise User Certificate)
  4. ประเภทเว็บไซต์ (TLS/SSL Certificate)

ใบรับรองฯ สามารถจัดเก็บได้ 2 รูปแบบ คือ

  • จัดเก็บเป็นไฟล์ ลงเครื่องคอมพิวเตอร์ (PKCS12)
  • จัดเก็บลงในอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัย เช่น eToken/HSM (PKCS11)

มีอายุ 1 ปี และ 2 ปี ให้ผู้ขอใบรับรองฯ เลือกใช้งาน ยกเว้น ใบรับรองฯ ประเภทเว็บไซต์ (TLS/SSL Certificate) มีอายุ 1 ปี โดยจะเริ่มนับอายุใบรับรองฯ ตั้งแต่วันที่ผู้ขอใบรับรองฯ ทำการรับใบรับรองฯ บนระบบของ TDID CA จนครบอายุของใบรับรองฯ ที่ผู้ขอใบรับรองฯ ใช้งาน

การยืนยันตัวตนแบบ Online: ชำระเงินผ่านคิวอาร์พร้อมเพย์, บัตรเครดิต/เดบิต
การยืนยันตัวตนแบบ Offline: ชำระเงินผ่าน Billpayment, Cheque(เช็ค) แล้วส่งหลักฐานชำระเงินพร้อมเอกสารประกอบใบคำขอใบรับรองฯ

อุปกรณ์ e-Token

  • เป็นอุปกรณ์ USB มีขนาดเล็กสามารถพกพาได้สะดวก
  • วิธีการใช้งานผ่านช่อง USB port บนคอมพิวเตอร์
  • เหมาะสำหรับการใช้งานน้อยถึงปานกลาง

อุปกรณ์ HSM

  • เป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ เชื่อมต่อผ่านเครือข่าย (Network)
  • เหมาะสำหรับหน่วยงาน/นิติบุคคล ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บใบรับรองฯ จำนวนมากและมีปริมา
  • มีประสิทธิภาพการทำงานได้เร็วกว่า eToken

หากผู้ขอใบรับรองฯ ต้องการใช้งานใบรับรองฯ ต่อ ต้องทำการขอใบใบรับรองฯ ใบใหม่ โดยระบบ TDID จะมีอีเมลแจ้งเตือนล่วงหน้า 60 วันและ 30 วันก่อนใบรับรองฯ หมดอายุพร้อม
กับแจ้งขั้นตอนการขอใบรับรองฯ ใหม่ในอีเมล

สามารถดำเนินการแก้ไขข้อมูลในใบรับรองฯ ได้ ภายใน 15 วันนับจากวันที่รับใบรับรองฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้ขอใบรับรองฯ จะต้องทำการเพิกถอนใบรับรองฯ ใบเดิม และทำการขอ ใบรับรองฯ ใบใหม่ หากเกิน 15 วันนับจากวันที่รับใบรับรองฯ แล้วผู้ขอใบรับรองฯ จะต้องทำการขอใบรับรองฯ และชำระค่าใบรับรองฯ ใหม่อีกครั้ง